หนทางเดียวที่จะแก้ปัญหา ก็คือ ให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง และเมื่อมีความเข้าใจถูกแล้วมีหรือที่จะไม่ประพฤติตามในสิ่งที่ถูกต้อง และถ้ามีความเข้าใจธรรมมากขึ้น ทุกคนพร้อมกันที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง ประเทศชาติก็แก้ไขปัญหาได้มากขึ้น
เมื่อเข้าใจถูกต้องก็ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
หน้าที่ของพุทธบริษัท ส่วนใหญ่จะลืม เมื่อมีผู้ที่เข้าใจพระธรรมวินัยไม่ถูกต้อง เราซึ่งเป็นพุทธบริษัท ได้ศึกษาแล้ว ก็สามารถที่จะพูดคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรงตามพระธรรมวินัย ไม่ใช่เราคิดเองเพราะฉะนั้น นี่คือหน้าที่ของเราที่จะพูดให้คนอื่นได้เข้าใจถูก เพราะนี่คือ หน้าที่ของเรา
หน้าที่ของพุทธบริษัท ก็คือพร้อมเพรียงกันศึกษา ไม่ใช่ว่าเว้นบริษัทหนึ่งบริษัทใด เราเกิดมาก็มีโอกาสได้ศึกษาพระธรรม เป็นชาวพุทธ พระคุณของพระธรรมพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่เราไม่ควรปล่อยปละละเลย ที่จะไม่กล่าวถึงให้คนอื่นได้เข้าใจได้ดำรงรักษาสิ่งที่พระองค์ทรงบำเพ็ญพระบารมีมอบหมายให้ทุกอย่างทุกประการใน ๔๕ พรรษา ไม่ใช่เวลาน้อย แล้วถ้าไม่ศึกษาจะเข้าใจไม่ได้ ถ้าศึกษาผิวเผินจะเข้าใจถูกไม่ได้ เพราะฉะนั้น บริษัท มีภิกษุ อุบาสก อุบาสิกา ก็ควรที่จะพร้อมเพรียงกัน เคารพในพระธรรม สิ่งใดที่ถูกต้องก็ประพฤติปฏิบัติตาม สิ่งใดที่ไม่ถูกต้อง แต่คนอื่นเข้าใจผิด ว่าถูก เราก็กล่าวคำนั้นให้เขาพิจารณา นี่คือ หน้าที่
ใครจะเปลี่ยนโลก ใครจะไปเปลี่ยนแต่ละคนได้ แต่คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสำหรับผู้ฟังที่มีความเคารพในพระองค์เท่านั้นที่จะประพฤติปฏิบัติตาม เราไม่สามารถที่จะไปบังคับใคร ชักชวนใครทั้งสิ้น แต่เราทำสิ่งที่ถูกต้อง ทำหน้าที่ของพุทธบริษัทที่ได้ศึกษาแล้ว แล้วก็เห็นประโยชน์อย่างยิ่ง ก็คือให้คนอื่นได้เข้าใจธรรม ส่วนเขาแต่ละคนจะทำอะไรก็เป็นเรื่องของแต่ละคน
ตราบใดที่ยังคิดว่า การที่จะเข้าใจพระธรรมวินัยหรือพระพุทธศาสนาให้ถูกต้อง เป็นเรื่องทีหลัง เรื่องอื่นด่วนกว่าก็ผิด แล้วอะไรจะไปแก้ได้ ในเมื่อเราก็รู้อยู่แล้วว่าปัญหาทั้งหมดมาจากความไม่รู้ เพราะคิดว่าเรื่องอื่นสำคัญกว่าเขาต้องแก้ก่อน ก็ไม่สำเร็จ ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม คนที่ไม่รู้ก็ไม่รู้ ทำผิดก็ทำผิดต่อไปทุจริตก็ทุจริตต่อไป และประเพณีต่างๆ ซึ่งทำด้วยความไม่รู้ ทำลายเศรษฐกิจทำลายหลายๆ อย่าง แต่ที่สำคัญที่สุด คือทำลายความเป็นพุทธบริษัท
ไม่รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด ก็ทำสิ่งที่ผิด ทุจริตต่างๆ ไม่ได้มาจากความเห็นถูกเลย ผิดกับถูก แยกกันอยู่แล้วโดยเด็ดขาด จะทำให้ผิดกับถูกมารวมกัน เป็นไปไม่ได้ เพราะเหตุว่า ผิดต้องผิด ถูกต้องถูก
จะเห็นได้ว่า ตราบใดที่เริ่มผิด ความผิดนั้นก็จะขยายต่อไปไม่สิ้นสุด แต่ถ้าเริ่มถูกก็จะมีความเข้าใจถูก เพราะฉะนั้น ปัญญาเป็นความเห็นที่ถูกต้อง พูดสิ่งที่เป็นประโยชน์ นั่นเป็นปัญญา ไม่ต้องกลัวความแตกแยก เพราะว่าถูกต้อง แต่ถ้าจะผิดกันหมดทั้งประเทศทั้งโลกจะได้ไม่แตกแยก คนมีปัญญาจะไม่เห็นอย่างนั้น เพราะถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิด เพราะว่าผิดกันมานาน ก่อนการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์จึงทรงบำเพ็ญพระบารมี เพื่อตรัสรู้ความจริงให้รู้ถูกต้องตามความเป็นจริง แล้วถ้าเราไม่ศึกษาพระธรรม เราจะสามารถรู้ไหมว่าอะไรจริงและอะไรควร ในเมื่อไม่รู้ ก็ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพิ่มขึ้น ทางแก้ ไม่ใช่การแก้โดยวิธีใดอื่น นอกจากศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจ และนั่นแหละ ประเทศชาติ จะไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่ คือ ทุจริตทุกหนแห่งทุกวงการ