นรชน พึงเป็นผู้ประพฤติอ่อนน้อมต่อบุคคลผู้เจริญ ไม่ริษยาและเมื่อไปหาครูพึงรู้จักกาละ พึงรู้จักขณะ ฟังธรรมกถาที่ครูกล่าวแล้ว พึงฟังสุภาษิตโดยเคารพพึงไปหาครู ผู้นั่งอยู่ในเสนาสนะของตนตามกาล ทำมานะดุจเสาให้พินาศ พึงประพฤติอ่อนน้อม พึงระลึกถึงเนื้อความแห่งภาษิต ธรรมคือบาลี ศีล พรหมจรรย์และพึงประพฤติโดยเอื้อเฟื้อด้วยดี
ธรรมะวันครู
ครูผู้ให้แสงสว่างคือปัญญา
ครู เป็นบุคคลผู้มีพระคุณต่อศิษย์มากมาย เป็นผู้แนะนำสั่งสอนให้ศิษย์เป็นคนดี ให้ตั้งอยู่ในคุณธรรมอันดีงาม เป็นผู้มีความจริงใจที่จะพร่ำสอนศิลปวิทยาให้แก่ศิษย์โดยประการทั้งปวง ถ้าจะกล่าวอย่างกว้าง ๆ แล้ว ครูเป็นบุคคลผู้ที่ควรเคารพ เป็นบุคคลผู้ควรแก่การบูชา ควรอย่างยิ่งที่ศิษย์จะแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวที ตามความสามารถของแต่ละบุคคลที่จะกระทำได้ ครู มีหลายประเภท เมื่อประมวลเพื่อประโยชน์แก่การศึกษาพิจารณาร่วมกัน สามารถสรุปได้ ๔ ประเภท ดังนี้คือ
๑. ครูคนแรก หมายถึง บิดามารดา เป็นผู้ที่แนะนำในสิ่งที่ควรแนะนำ กล่าวคือสอนให้ลูกเรียกคนนี้ว่าแม่ สอนให้เรียกคนนี้ว่าพ่อ สอนให้เรียกคนนี้ว่า พี่ ป้า น้า อา เป็นต้น พร้อมทั้งแนะนำให้ลูกตั้งอยู่ในคุณความดีประการต่าง ๆ ด้วย
๒. ครูคนที่สอง หมายถึง ครูอาจารย์ในโรงเรียน หรือ ในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ที่พร่ำสอนศิลปวิทยาแขนงต่าง ๆ เพื่อประโยชน์แก่การประกอบอาชีพที่จะทำให้เป็นผู้มีชีวิตดำรงอยู่อย่างไม่เดือดร้อน พร้อมทั้งศิลปวิทยาที่เรียนมานั้นยังสามารถก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมโดยรวมได้อีกด้วย
๓. ครูผู้สอนธรรม หมายถึง บุคคลผู้ที่ได้ศึกษาพระธรรม ตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีความเข้าใจถูกเห็นถูกแล้วมีเมตตาประสงค์จะให้ผู้อื่นได้เข้าใจตามด้วย จึงมีการกล่าวธรรม มีการแสดงธรรม เพื่อประโยชน์ คือความเข้าใจถูกความเห็นถูกของผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษา น้อยคนที่จะเป็นครูประเภทนี้ได้ เพราะต้องมีความเข้าใจพระธรรมอย่างถูกต้อง และต้องมีเมตตาปรารถนาให้ผู้อื่นได้เข้าใจพระธรรมด้วย
๔. ครูผู้ยิ่งกว่าครูทั้งหลายในโลก ได้แก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นศาสดา เป็นครู เป็นผู้สอน ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ซึ่งตรงกับพระพุทธคุณบทหนึ่งคือ “สัตถา เทวมนุสสานัง” พระองค์เสด็จอุบัติขึ้นในโลก เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลกให้เป็นผู้หลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง อย่างที่พระองค์ได้หลุดพ้นแล้ว การเกื้อกูลสัตว์โลกนั้น ก็ด้วยการทรงแสดงพระธรรม ตามสมควรแก่อัธยาศัยของผู้ฟัง ช่วงเวลาแห่งการแสดงพระธรรมประกาศพระศาสนาของพระองค์นั้น นานถึง ๔๕ พรรษา จากพระมหากรุณาที่ทรงแสดงพระธรรมนั้น ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากพระธรรมมีเป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนทั้งเทวดา พรหม และมนุษย์ทั้งหลาย จึงไม่มีครูคนใดยิ่งไปกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ความเคารพต่อบุคคลผู้ที่ควรเคารพ กล่าวคือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมถึงพระธรรม และพระอริยสงฆ์ด้วย หรือต่อผู้มีพระคุณ มีบิดามารดา ครู อาจารย์ เป็นต้นนั้น ควรกระทำบ่อย ๆ เนือง ๆ พร้อมทั้งควรอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้น้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ด้วยความจริงใจ เพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองด้วย
ข้อความจาก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต กิงสีลสูตร
นรชน พึงเป็นผู้ประพฤติอ่อนน้อมต่อบุคคลผู้เจริญ ไม่ริษยาและเมื่อไปหาครูพึงรู้จักกาละ พึงรู้จักขณะ ฟังธรรมกถาที่ครูกล่าวแล้ว พึงฟังสุภาษิตโดยเคารพพึงไปหาครู ผู้นั่งอยู่ในเสนาสนะของตนตามกาล ทำมานะดุจเสาให้พินาศ พึงประพฤติอ่อนน้อม พึงระลึกถึงเนื้อความแห่งภาษิต ธรรมคือบาลี ศีล พรหมจรรย์และพึงประพฤติโดยเอื้อเฟื้อด้วยดี.