Home » ความเข้าใจเรื่องการเจริญสติปัฏฐาน

ความเข้าใจเรื่องการเจริญสติปัฏฐาน

( Somboon )

by Pakawa

ทั้งหมดของพระธรรม “เพื่อให้เกิดความเข้าใจถูกเห็นถูก ตามลำดับขั้นในสิ่งซึ่งกำลังปรากฏ” ถ้ามีการพูดเรื่องสติปัฏฐาน แล้วก็มีการเชิญชวนให้มีการปฏิบัติ แล้วก็คิดว่าอย่างนั้นเป็นสติอย่างนี้เป็นสติ อย่างนี้เป็นกาย ต้องรู้ที่กาย อย่างนี้เป็นความรู้สึก ต้องรู้ที่ความรู้สึก นั่นไม่ใช่ความเข้าใจถูก ถ้าไม่มีปัญญาขั้นการฟัง มั่นคงในลักษณะสภาพธรรม ปัญญาขั้นสติปัฏฐาน ก็เกิดไม่ได้

ความเข้าใจเรื่องการเจริญสติปัฏฐาน 

    พระธรรมเป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้ง แม้แต่การเจริญสติปัฏฐาน ที่กล่าวว่าปฏิบัติ ก็เป็นเรื่องละเอียด ที่จะศึกษาอย่างละเอียด จึงจะไม่ปฏิบัติผิด แม้แต่คำว่า สติ ที่เป็นสติปัฏฐาน เราจะต้องเข้าใจให้ถูกว่า สติในพระพุทธศาสนา กับ สติที่ชาวโลกเข้าใจกันนั้น ไม่เหมือนกันเลย สติปัฏฐาน ที่เป็นสติและปัญญานั้น ไม่ได้หมายถึง สติที่รู้ว่ากำลังทำอะไร ไม่ใช่ สติที่หมายถึงว่า เดินก็รู้ว่ากำลังเดิน ยืนก็รู้ว่ากำลังยืน ดังนั้นการที่รู้ว่ากำลังก้าวไป กำลังเดินไป กำลังทำอะไรอยู่ นั้นไม่ใช่ สติปัฏฐานที่เป็น สติในการปฏิบัติ เพราะสติในทางพระพุทธศาสนา หมายถึง สติเจตสิกที่เป็นสภาพธรรมที่ระลึก เกิดกับจิตที่เป็นกุศลเท่านั้น การรู้ว่าทำอะไร ไม่ได้หมายถึงว่ามีสติ ซึ่งในพระไตรปิฎก ที่เป็นสติปัฏฐานสูตร ในอิริยาบถบรรพ แสดงไว้ชัดเจนว่า การที่รู้เดิน ก็รู้ว่ากำลังเดินอยู่ ไม่ใช่การเจริญสติปัฏฐาน ไม่ใช่สติในขณะนั้น
    ในอรรถกถาอธิบายเพิ่มเติมว่า แม้สุนัขบ้าน ก็รู้ว่ามันกำลังเดินอยู่ จึงไม่ใช่สติปัฏฐาน แม้เด็กก็รู้ว่า กำลังเดินอยู่ กำลังก้าวไป จึงไม่ใช่การปฏิบัติที่เป็นการเจริญสติปัฏฐาน และที่สำคัญที่สุด ลืมไม่ได้เลย สติและปัญญาเป็นธรรม และธรรมเป็นอนัตตา คือบังคับบัญชาไม่ได้ ดังนั้น ไม่มีตัวตน หรือ พยายามที่จะให้สติเกิดได้เลย และไม่มีตัวตน หรือ บังคับได้ ให้สติเกิดในขณะที่เดิน ขณะที่ก้าว ขณะที่ย่าง เพราะในความเป็นจริง การเจริญสติปัฏฐาน ที่เป็นสติ สติในที่นี้ หมายถึงการระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฎในชีวิตประจำวัน ที่เป็น จิต เจตสิกและรูป เช่น ระลึกรู้ในขณะที่เห็น ว่าเป็นเพียงธรรม ที่เป็น จิตไม่ใช่เรา ขณะที่ได้ยิน ก็รู้ว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ซึ่งอาศัยอาการเนืองด้วยอิริยาบถ เช่น ขณะที่ยืน ก็มีธรรม มีเห็น มีได้ยิน มีกระทบแข็ง ถ้าสติและปัญญาเกิดก็รู้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา แต่การเจริญสติปัฏฐาน ไม่ใช่การรู้ว่ากำลังเดิน กำลังยืน กำลังก้าวไป เพราะขณะนั้นไม่ได้รู้ว่าเป็นแต่เพียงธรรม ไม่ใช่เรา และที่สำคัญ ไม่ใช่ว่าผู้ที่อบรมเบื้องต้น จะต้องเริ่มจากการมีสติ รู้ช้าๆ นั่นก็ไม่ใช่ สติ เพราะสติเป็นโสภณธรรม เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น และ สติสามารถเกิดได้ในชีวิตประจำวัน อันเนื่องกับอิริยาบถ โดยไม่มีตัวตนที่จะทำสติ ให้เกิดในตอนนั้นตอนนี้ 
      สติจะเริ่มเกิดก็เพราะการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมไม่ใช่เพราะจะทำ โดยการเดินหนอ ย่างหนอเลย การศึกษาพระธรรมจะต้องละเอียดรอบคอบ โดยอ่านพระไตรปิฎกและอรรถกถาประกบอด้วย 
      พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑ – หน้าที่ 684
      ถึงสุนัขบ้าน และสุนัขจิ้งจอก เมื่อเดินไปก็รู้โดยแท้ว่า เรากำลังเดิน. แต่การรู้นั่น พระองค์มิได้ตรัสหมายเอาการรู้แบบนี้. เพราะว่าการรู้แบบนี้  ละสัตตูปลัทธิ (การยึดถือว่าเป็นสัตว์) ไม่ได้ถอนอัตตสัญญา (ความสำคัญว่าเป็นอัตตา) ไม่ออก. ไม่เป็นกรรมฐาน หรือสติปัฏฐานภาวนา. แต่การรู้ของภิกษุนี้ ละสัตตูลัทธิได้ ถอนอัตตสัญญาได้ เป็นกรรมฐาน หรือเป็นสติปัฏฐานภาวนา
      การเจริญสติปัฏฐาน ไม่ใช่การไปทำอะไรที่ผิดปกติ ด้วยความเป็นตัวตน ด้วยความไม่รู้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง ก่อนอื่นจึงต้องฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ และต้องเข้าใจสิ่งที่กล่าวถึงนั้น คือ อะไร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้อย่างไร ซึ่งจะต้องศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบจริง ๆ ถ้าไม่ได้ศึกษาแล้วความเข้าใจที่ถูกต้องย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ มีแต่ความเห็นผิดและความไม่รู้  เมื่อมีความเห็นผิดแล้ว ทุกอย่างผิดหมด ปฏิบัติก็ผิด แม้จะบอกว่านี้คือการปฏิบัติธรรม นี้คือการเจริญสติปัฏฐาน ก็ไม่ใช่ปฏิบัติธรรม ไม่ใช่เจริญสติปัฏฐาน เพราะเป็นไปกับด้วยความเห็นผิดและความไม่รู้ ไม่มีปัญญาที่เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริง 
     ที่ตั้งที่จะให้สติปัฏฐานเกิดนั้น ก็คือ สภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ฟังในสิ่งที่มีจริงบ่อย ๆ เนือง ๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ นี้แหละที่จะเป็นเหตุให้สติปัฏฐานเกิดขึ้นระลึกรู้สภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏในขณะนี้ได้ เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น.

You may also like

Leave a Comment

ช่องทางติดตามข่าวสาร

Copyright @2024  All Right Reserved – Buddhawisdomfoundation Buddhawisdom

-
00:00
00:00
Update Required Flash plugin
-
00:00
00:00