( Somboon )
สภาพธรรมที่คิด มีจริง เรื่องที่คิดไม่มีจริง ไม่มีใครที่จะไปบังคับบัญชา ไม่ให้สภาพธรรมหนึ่งสภาพธรรมใดเกิดขึ้นเป็นไปได้เลย เพราะธรรมเกิดเพราะเหตุปัจจัย ประโยชน์ที่ควรพิจารณา คือเข้าใจสภาพธรรมที่มีจริง ๆ ในขณะนี้
หยุดคิด
ไม่มีใครที่จะไปสะกัดกั้นความคิดนึกได้ เพราะธรรมเกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ถ้าบังคับได้ ทุกคนก็จะคิดแต่สิ่งที่ดี ๆ ไม่คิดเบียดเบียนประทุษร้ายผู้อื่น ไม่คิดที่จะว่าร้ายผู้อื่นเป็นต้น แต่ทำไมบางคนก็คิดดี บางคนก็คิดไม่ดี ก็เพราะสะสมมาต่างกัน ธรรมเมื่อได้เหตุได้ปัจจัยก็เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ ในเมื่อธรรมมีอยู่ตลอด ไม่ต้องไปแสวงหาที่ไหน ก็ควรที่จะได้ประโยชน์ จากการที่มีธรรมอยู่ตลอด นั่นก็คือความเข้าใจถูก เห็นถูกในสภาพธรรมที่มีจริง ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา นี้แหละคือสิ่งที่สำคัญ ไม่ใช่เป็นการไปหาวิธีที่จะไม่คิด แต่เป็นการเข้าใจความจริง และอีกประการหนึ่ง ความเข้าใจพระธรรม ก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนจากที่เคยคิดไม่ดีเป็นคิดดีขึ้น คล้อยตามความเข้าใจที่ค่อย ๆ เจริญขึ้น
เมื่อมีเหตุปัจจัยก็คิด เป็นธรรมดา แม้แต่พระอรหันต์ท่านก็คิดนึก ไม่ได้เกิดสติตลอดเวลา ซึ่งเป็นธรรมดาของสภาพธรรม และวิถีจิตที่จะต้องเป็นอย่างนั้น แม้ปุถุชน ผู้อบรมปัญญา แม้เกิดปัญญา และ ดับไป คิดนึกก็เกิดต่อได้ และ แม้อกุศลก็เกิดต่อได้เป็นธรรมดา แสดงถึงความเป็นอนัตตาของสภาพธรรม หนทางที่ถูก จึงไม่ใช่หนทางที่จะทำ แต่เป็นหนทางที่เข้าใจด้วยการฟัง ศึกษาพระธรรมต่อไป ธรรมจะทำหน้าที่เอง การระลึกรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง เป็นเรื่องของความเข้าใจที่ค่อย ๆ เจริญขึ้น จากการที่ได้ฟังเรื่องของสภาพธรรมที่มีจริง ๆ ในขณะนี้ เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ก็เกื้อกูลให้สติปัญญาเกิดขึ้น เข้าถึงสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ แต่ก็ไม่ใชว่าจะเกิดขึ้นเป็นไปได้โดยง่าย ๆ เพราะสะสมความไม่รู้มานาน จึงต้องสะสมสิ่งที่จะขัดเกลาความไม่รู้ เป็นอย่างมากและยาวนานเช่นเดียวกัน ซึ่งก็คือสะสมความเข้าใจถูก เห็นถูก
บางท่านสอนให้รู้ทันความคิดหยุดความคิด เป็นหนทางที่จะดับกิเลส ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย แม้บุคคลในสมัยก่อนพุทธการ เจริญความสงบจนถึงฌาน ดับความคิดจนหมด ก็ไม่สามารถดับกิเลสอะไรได้ ถ้าไม่ได้ฟังไม่เข้าใจคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่การฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าให้เข้าใจแล้วเดินไปในทางที่ถูกต้องคือมรรคมีองค์ ๘ เท่านั้น จึงจะละกิเลสได้ในที่สุด.
