Home » มีปัญญาพึ่งพระรัตนตรัย

มีปัญญาพึ่งพระรัตนตรัย

( Somboon )

by Pakawa

บุคคลที่ปรารถนาความสุข อยากพ้นทุกข์ ย่อมบนบาน เข้าไปหาต้นไม้ เจดีย์ ป่า ที่คิดว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่น ต้นไม้ เทวดา พญานาค วัตถุมงคลต่างๆ เหล่านี้ ไปขอลาภ สักการะ ขอหวย ขอให้มีความสุข แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำให้พ้นทุกข์เลย ไม่สามารถบันดาลให้เป็นไปตามที่ใจปรารถนาได้ เพราะสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆ ตน

มีปัญญาพึ่งพระรัตนตรัย

“มนุษย์เป็นอันมาก ถูกภัยคุกคามแล้ว ย่อมถึงภูเขา ป่า อาราม และรุกขเจดีย์ว่าเป็นที่พึ่ง สรณะนั่นแลไม่เกษม สรณะนั่นไม่อุดม เพราะบุคคลอาศัยสรณะนั่น ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้”
พระไตรปิฎก เล่ม ๔๒ เรื่องปุโรหิตชื่ออัคคิทัตเรื่องย่อมีดังนี้ ปุโรหิตชื่อ อัคคิทัต ของพระเจ้าโกศล เมื่อเขาชราแล้ว จึงขออนุญาตพระราชาออกบวช เป็นนักบวชนอกศาสนามีบริวารหนึ่งหมื่นคนออกบวชตาม
ครั้งนั้นพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่เมืองสาวัตถี ทรงตรวจดูสัตว์โลกเห็น อัคคิทัต และ บริวารหนึ่งหมื่นในข่ายพระญาณว่าเขาจะได้บรรลุเป็นพระอรหันต์เมื่อเราไปแสดงธรรม จึงทรงรับสั่งให้พระมหาโมคคัลลานะล่วงหน้าไปก่อน และ พระองค์จะเสด็จตามไป ฯลฯ (พระมหาโมคคัลลานะ ทำให้อัคคิทัตและบริวารเลื่อมใส) พระพุทธเจ้าเสด็จมา ฯ ได้ตรัสกับอัคคิทัตว่า เธอสอนลูกศิษย์ของท่านว่าอย่างไร อัคคิทัตทูลว่าข้าพระองค์สอนเขาว่า “พวกท่านจงถึงภูเขาเป็นสรณะ จงถึงป่าเป็นสรณะ จงถึงอารามเป็นสรณะ จงถึงต้นไม้เป็นสรณะ พวกท่านจักพ้นจากทุกข์ทั้งสิ้นได้ด้วยอาการอย่างนี้” พระศาสดาตรัสว่า “อัคคิทัต บุคคลถึงวัตถุทั้งหลายมีภูเขาเป็นต้น นั่นว่าเป็นที่พึ่งแล้ว ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ได้เลย, ส่วนบุคคลถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่ง ย่อมพ้นจากทุกข์ในวัฏฏะทั้งสิ้นได้” ตรัสพระคาถาว่า “มนุษย์เป็นอันมาก ถูกภัยคุกคามแล้ว ย่อมถึงภูเขา ป่า อาราม และรุกขเจดีย์ว่าเป็นที่พึ่ง สรณะนั่นแลไม่เกษม สรณะนั่นไม่อุดม เพราะบุคคลอาศัยสรณะนั่น ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้”
ส่วนบุคคลใดถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ว่าเป็นที่พึ่ง ย่อมเห็นอริยสัจ ๔ (คือ) ทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ความก้าวล่วงทุกข์ และมรรคมีองค์ ๘ อันประเสริฐ ซึ่งยังสัตว์ให้ถึงความสงบแห่งทุกข์ ด้วยปัญญาชอบ สรณะนั่นแลของบุคคลนั้นเกษม สรณะนั่นอุดม เพราะบุคคลอาศัยสรณะนั่นย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้
เมื่ออัคคิทัตและบริวารหนึ่งหมื่นได้ฟังพระคาถาจบ เกิดปัญญาได้บรรลุเป็นพระอรหันต์.

อธิบายดังนี้ บุคคลที่ปรารถนาความสุข อยากพ้นทุกข์ ย่อมบนบาน เข้าไปหาต้นไม้ เจดีย์ ป่า ที่คิดว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่น ต้นไม้ เทวดา พญานาค วัตถุมงคลต่างๆ เหล่านี้ ไปขอลาภ สักการะ ขอหวย ขอให้มีความสุข แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำให้พ้นทุกข์เลย ไม่สามารถบันดาลให้เป็นไปตามที่ใจปรารถนาได้ เพราะสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆ ตน การจะได้รับสิ่งที่ดีหรือไม่ดี ก็เพราะบุญกรรมของแต่ละคน ไม่ใช่การอ้อนวอน กราบไหว้ ต้นไม้ เทวดา พญานาค สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เป็นต้น และ แม้แต่เทวดาทั้งหลายก็ต้องเป็นไปตามอำนาจของกรรม และเทวดาเหล่านั้นก็ไม่พ้นจากทุกข์เพราะไม่มีปัญญา แต่สิ่งที่ทำให้พ้นทุกข์คืออะไร
สภาพธรรมที่ทำให้เกิดทุกข์ คือ กิเลส เพราะมีกิเลส อวิชชา มีความเห็นผิด ยึดถือว่าป็นเรา เป็นสัตว์บุคคล ยึดถือว่าบุตรของเรา ก็เดือดร้อนเพราะบุตร เดือดร้อนเพราะสิ่งที่รัก ด้วยความยึดถือด้วยกิเลสประการต่างๆ กิเลสนำมาซึ่งทุกข์ เพราะฉะนั้นที่พึ่งที่ประเสริฐจริงๆ ที่ทำให้พ้นทุกข์ คือ ปัญญาที่รู้ความจริงในขณะนี้ ที่เข้าใจถูกว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา เพราะจะทำให้ละกิเลส คลายทุกข์เพราะกิเลสได้ และปัญญาที่เข้าใจถูกเหล่านี้มาจากไหน ก็มาจากคำของพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้วนั่นเอง เพราะฉะนั้นที่พึ่งที่แท้จริงที่ทำให้เกิดปัญญา คือ พระรัตนตรัย คือ พระพุทธเจ้าที่แสดงพระธรรมดีแล้ว พระธรรมที่ทำให้เกิดปัญญา และ พระสงฆ์ผู้มีปัญญาสืบทอดพระธรรมมาจนถึงบัดนี้ เพราะฉะนั้นที่พึ่งอื่น มีต้นไม้ เทวดา พญานาค และสิ่งต่างๆ ที่สมมติว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถพ้นทุกข์เพราะไม่ทำให้เกิดปัญญา สิ่งที่สัตว์โลกปรารถนามีทรัพย์สินเงินทอง มีสิ่งต่างๆ ที่ดี จะมีมากเท่าไหร่ ได้สักเท่าไหร่ก็ตาม ก็ไม่พ้นจากความทุกข์ได้เลย เพราะสัตว์โลกยังเต็มไปด้วยกิเลส เพราะฉะนั้นที่พึ่งที่ประเสริฐ คือ ปัญญาและพระรัตนตรัย
แต่ที่น่าพิจารณาว่าปัญญานั้น ไม่ใช่ได้มาจากการไปปฏิบัติโดยไม่มีความเข้าใจ เพราะทำสิ่งที่ผิด สอนสิ่งที่ผิด ไม่ได้มาจากการนั่งสมาธิที่ทำแล้วไม่มีปัญญารู้อะไร แต่สำคัญผิดคิดว่าสงบ แต่ไม่ใช่ปัญญา แต่ปัญญามีได้ด้วยการฟัง ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจในขณะนี้ว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา นี่คือหนทางแห่งปัญญา ที่จะเป็นหนทางละทุกข์และเป็นที่พึ่งที่แท้จริง.

You may also like

Leave a Comment

ช่องทางติดตามข่าวสาร

Copyright @2024  All Right Reserved – Buddhawisdomfoundation Buddhawisdom

-
00:00
00:00
Update Required Flash plugin
-
00:00
00:00