Home » ความจริงของชีวิต

ความจริงของชีวิต

( Somboon )

by Pakawa

ชีวิตเป็นไปตาม ปัจจัยทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น เราจึงควรศึกษาพระธรรม เพื่อให้เข้าใจชีวิต ควรเรียนรู้เพื่อเข้าใจชีวิตในขณะนี้ คนเราทุกคน มีความคิดต่างกัน มีความรู้สึกต่างกันเพราะมี ปัจจัยที่ต่างกัน

ความจริงของชีวิต

เป็นปรกติของชีวิต ที่เกิดมาแล้วก็ตายไป แต่ก่อนจะตาย ก็มีกิน มีนอน แล้วก็มีแต่ความติดข้องทั้งหมด รักใคร่พอใจอะไร รักที่สุดคือตัวเอง ทั้งหมดที่ยึดถือว่าเป็นเรา เป็นของเรา เวลาตาย เอาไปไม่ได้สักอย่าง พ่อแม่ก็ยังทิ้งไว้ แม้รักที่สุดก็ต้องเป็นอย่างนี้ แม้แต่คนที่รักตัวเองมากมาย ทำนุบำรุงทุกวันเลือกอาหารที่มีประโยชน์ ต้องประเภทนั้นประเภทนี้ ทุกอย่างหมด แล้วก็เอารูปนี้ไปไม่ได้เลย แต่สิ่งที่สะสม ปัญญาขณะนี้ที่เริ่มเข้าใจธรรมะ พอได้ยินได้ฟังต่อไปเข้าใจได้ แล้วก็เข้าใจได้เพิ่มขึ้นด้วย
เพราะฉะนั้น สิ่งที่ประเสริฐที่สุดเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมดในบรรดาสิ่งที่เกิดขึ้น คือ ปัญญา ความเห็นถูกต้อง ทุกข์เกิดเพราะไม่รู้ความจริง แต่ปัญญาเกิดไม่เป็นทุกข์ เพราะเข้าใจถูกว่า ไม่มีอะไร นอกจากสิ่งที่เกิดแล้วดับไปชั่วคราว แล้วจะไปเดือดร้อนกับอะไร ดับหมดแล้วไม่เหลือเลย
เราทุกคน อยากจะมีแต่ความสุข ตลอดเวลาแต่ก็เป็น สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าเราสามารถเข้าใจ “เหตุ” ที่ทำให้ความรู้สึกของเราต่าง ๆ กันไปก็จะทำให้ความรู้สึกที่ไม่พอใจน้อยลง
ชีวิต เป็นสิ่งที่บังคับบัญชาไม่ได้ เพราะว่าชีวิตแต่ละขณะเกิดขึ้น เมื่อมีปัจจัยปรุงแต่ง ซึ่งทำให้ชีวิตเป็นไป ในลักษณะต่าง ๆ เช่น เราอาจจะคิดว่าเราบังเอิญ เกิดมาในประเทศนี้ และเราแต่ละคน ก็มีชีวิตที่ต่างกันไปแต่ ความจริงแล้ว ชีวิตเป็นไปตาม ปัจจัยทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น เราจึงควรศึกษาพระธรรม เพื่อให้เข้าใจชีวิต ควรเรียนรู้เพื่อเข้าใจชีวิตในขณะนี้ คนเราทุกคน มีความคิดต่างกัน มีความรู้สึกต่างกันเพราะมี ปัจจัยที่ต่างกัน
เราคิดว่ามีตัวตนคิดว่ามีเรา แต่สิ่งที่คิดว่าเป็นเรา นั้น คือขณะนี้ ขณะที่กำลังเห็น ขณะที่กำลังได้ยิน ขณะกำลังได้กลิ่น ขณะกำลังลิ้มรส ขณะกำลังกระทบสัมผัสทางกาย หรือ ขณะกำลังคิดนึกเรื่องราวต่าง ๆ ทางใจ ตามปกติ ตามความเป็นจริงในชีวิตประจำวันนั้น เห็นสิ่งที่น่าพอใจบ้าง หรือ เห็นสิ่งที่ไม่น่าพอใจบ้างแต่ การเห็นเช่นนั้น เกิดขึ้นต่างขณะกันหมายความว่า เป็นการเห็นที่ไม่เหมือนกัน  คือ เกิดขึ้นต่างขณะกันการที่เรา เข้าใจชีวิตชั่วขณะหนึ่ง ๆ นั้นไม่จำเป็นต้องคิดว่า เป็นเรื่องของศาสนาใดศาสนาหนึ่งโดยเฉพาะเพราะว่าความจริง คือ การเห็น การได้ยิน และ ความรู้สึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละขณะ เป็นสิ่งที่มีจริง ไม่ว่าเราจะเรียก การเห็น หรือ การได้ยิน ฯลฯ เป็นต้นนั้น ด้วยภาษาอะไรก็ตาม
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรม คือ ประกาศความจริง เพื่อให้พุทธบริษัทได้เข้าใจถูกเห็นถูกตรงตามความเป็นจริงของธรรม ว่า มีจริง ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น คำใดก็ตามที่กล่าวให้เข้าใจความจริง ย่อมเป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ควรค่าแก่การฟังการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ผู้มีปัญญา เห็นประโยชน์ของพระธรรม ฟังพระธรรมด้วยความละเอียดรอบคอบ จริงใจ ตรงต่อความจริง ย่อมสามารถแยกแยะได้ว่า คำใดเป็นคำที่แสดงให้เข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริงๆ ซึ่งเป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และ คำใด ไม่ใช่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะต้องตรงตั้งแต่คำแรก คือ คำว่า ธรรมมีจริง เป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์ บุคคลตัวตน บังคับบัญชาไม่ได้
ขอให้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ด้วยความเคารพ ไม่ประมาทในแต่ละคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เพื่อเข้าใจความจริงของชีวิต.

You may also like

Leave a Comment

ช่องทางติดตามข่าวสาร

Copyright @2024  All Right Reserved – Buddhawisdomfoundation Buddhawisdom

-
00:00
00:00
Update Required Flash plugin
-
00:00
00:00