Home » ความเข้าใจเรื่องสมาธิ

ความเข้าใจเรื่องสมาธิ

by Pakawa

( Somboon )

เป็นเรื่องที่ควรเข้าใจให้ถูกต้อง อย่าพอใจกับคำว่า “สมาธิ” โดยไม่มีการศึกษาให้เกิดเข้าใจที่ถูกต้องเสียก่อนว่า มิจฉาสมาธิ และ สัมมาสมาธิ ต่างกันอย่างไร

ความเข้าใจเรื่องสมาธิ

ตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง สมาธิ มี ๒ อย่างที่จะต้องเข้าใจให้ถูกต้อง คือ มิจฉาสมาธิ กับสัมมาสมาธิ ไม่ใช่ว่าสมาธิจะดีทั้งหมด ถ้าแยกยังไม่ออก ก็เข้าใจว่าเป็นสัมมาสมาธิ แต่ความจริงเป็นมิจฉาสมาธิก็ได้ ตราบใดที่ยังไม่รู้ว่า สัมมาสมาธิคืออย่างไร มิจฉาสมาธิคืออย่างไร ถ้าสามารถบอกได้ว่า มิจฉาสมาธิคืออย่างไร นั่นคือมีสัมมาสมาธิ ถ้าตอนนี้ยังบอกไม่ได้ระหว่างมิจฉาสมาธิกับ สัมมาสมาธิ ก็หมายความว่ายังเป็นมิจฉาสมาธิอยู่ จนกว่าเมื่อไรบอกได้ว่า มิจฉาสมาธิคืออย่างไร เมื่อนั้นคือรู้จักสัมมาสมาธิ
ลักษณะของสมาธิไม่ใช่ลักษณะของความสงบ เกิดกับจิตที่เป็นอกุศลก็ได้ ตั้งมั่นคงด้วยอกุศลก็ได้ ไม่ใช่ความสงบ เพราะฉะนั้น อย่าปนสภาพของความสงบ กับลักษณะของสมาธิซึ่งมีทั้งมิจฉาสมาธิ เป็นอกุศลสมาธิ ความสงบคือสภาพธรรมทีดีงามที่ปราศจากโลภะ โทสะ โมหะ ขณะที่ต้องการทำสมาธิ ต้องการจดจ้อง ขณะนั้นมีโลภะ ต้องการ ไม่สงบ สงบคือต้องสงบจากกิเลส
ดังนั้น อย่าคิดว่าตั้งมั่นแล้ว จดจ้องแล้ว อยู่ที่ลมหายใจแล้ว นั่นกล่าวถึงเพียงลักษณะของสมาธิ ไม่ได้กล่าวถึงลักษณะของความสงบ และเอาสมาธินั้นมาเป็นเครื่องวัด ซึ่งสมาธินั้นเกิดกับอกุศลจิตเป็นโลภมูลจิต (ความติดข้อง) ได้ แต่ถ้าปัญญาเกิดขึ้นพร้อมทั้งความสงบและสมาธิ ขณะนั้นจึงเป็นความสงบ
การฟังการศึกษาพระธรรมสำคัญที่สุดคือเข้าใจ ขณะนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องสมาธิ ถ้าศึกษาแล้วจะทราบว่า สมาธิ หรือเอกัคคตาเจตสิก เกิดกับจิตทุกขณะ ใครจะไม่ให้เอกัคคตาเจตสิกเกิดไม่ได้ เป็นสภาพธรรมะที่ต้องเกิดกับจิต มีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ก็แสดงให้เห็นว่า พระปัญจวัคคีย์ขณะนั้นไม่ได้ไปเจริญฌาน หรืออะไรเลย แต่ฟังพระธรรม แล้วเมื่อจบเทศนาก็ได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน
ในครั้งโน้นก็มีผู้ที่ได้บำเพ็ญสมถภาวนา แล้วก็เป็นผู้ที่ถึงฌานมาก แต่พวกที่ได้ฌานนั่นเองไม่ใช่ว่าจะได้วิปัสสนา เพราะเหตุว่าถ้าไม่ได้มีการฟังพระธรรม แล้วก็อบรมเจริญสติปัฏฐาน เรื่องของฌานก็เรื่องของฌานไป
โดยมากถ้าไม่ศึกษาจริงๆ เราจะถูกหลอก คือเข้าใจว่า สมาธิเป็นสติ ต้องมีสติจดจ้องที่ลมหายใจ ต้องบริกรรมคำต่างๆ เป็นการทำสมาธิ ถ้าสามารถที่จะตอบได้เมื่อไรว่า ลักษณะของสติและสมาธิ คืออย่างไร เมื่อนั้นเริ่มเข้าใจ อย่างที่เราใช้คำว่าใช้สติ เอาสติ หรือจะทำสติ หรือเจริญสติก็ตามแต่ ถ้ายังไม่รู้ลักษณะของสติ ทั้งหมดเป็นโมฆะ เราไปเอาสภาพธรรมะอย่างหนึ่ง คือ สมาธิมาเปลี่ยนชื่อใหม่ ว่านี่เรากำลังจะทำสติ เอาสมาธินั่นแหละมาทำสติ แต่เรายังไม่รู้ความต่างกันจริงๆ ของสติกับสมาธิ ซึ่งไม่เหมือนกันเลย และไม่ใช่ธรรมะอย่างเดียวกันด้วย ที่สำคัญถ้าไม่มีปัญญา สมาธิ ก็เป็น มิจฉาสมาธิ และ สติก็เป็น มิฉาสติ
เรื่องนี้ต้องพิจารณาจริงๆ ถ้ามีผู้บอกว่าทำสมาธิให้ทำอย่างนั้น ให้ทำอย่างนี้ ซึ่งนอกเหนือจากคำสอนของพระพุทธองค์แล้ว คำสอนนั้นมาจากไหน เราควรทำตามหรือไม่ นี่เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา.

You may also like

Leave a Comment

-
00:00
00:00
Update Required Flash plugin
-
00:00
00:00