Home » อธิษฐานธรรม ๔ ประการ

อธิษฐานธรรม ๔ ประการ

by Pakawa

( Somboon )

อธิษฐาน ซึ่งเป็นความตั้งใจมั่นในการเจริญกุศล จึงเป็นปัจจัยให้กุศลเกิดขึ้นและสำเร็จได้ เป็นบารมี ที่ควรอบรมเจริญให้มีขึ้นในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าเป็นการขออยากได้ในเรื่องหนึ่งเรื่องใดนั้น เป็นอกุศลจิต ที่ประกอบด้วยโลภะ ความติดข้องต้องการ ไม่ใช่อธิษฐานในพระพุทธศาสนา

อธิษฐานธรรม ๔ ประการ

      คำว่า อธิษฐานในภาษาไทยที่เข้าใจกันนั้น หมายถึง การขอ แต่ตามหลักคำสอนในทางพระพุทธศาสนาแล้ว หมายถึง ความตั้งใจมั่น ซึ่งเป็นความตั้งใจมั่น ไม่หวั่นไหว ในการที่จะสะสมคุณความดีประการต่าง ๆ เพราะเห็นโทษของอกุศล และเห็นคุณของกุศลธรรมด้วยปัญญาที่ค่อย ๆ เจริญขึ้นจากการฟัง การศึกษาพระธรรมในชีวิตประจำวัน เป็นเรื่องของกุศลทั้งหมด และเป็นไปในการสละกิเลสทั้งสิ้น เพราะเหตุว่าจิตใจของผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่นั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นอกุศลทั้งนั้น ถูกอกุศลกลุ้มรุมจิตใจอยู่เกือบจะตลอดเวลา เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้ที่มีความตั้งใจมั่น ก็เป็นผู้ที่รู้ตัวว่ามีกิเลสมาก มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น ที่ได้สะสมมาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ ซึ่งจะต้องอาศัยความตั้งใจมั่นจริง ๆ ในการเจริญกุศลประการต่าง ๆ เพื่อขัดเกลากิเลส มิฉะนั้นแล้วก็พลาดให้กับอกุศลทุกที อธิษฐาน ซึ่งเป็นความตั้งใจมั่นในการเจริญกุศล จึงเป็นปัจจัยให้กุศลเกิดขึ้นและสำเร็จได้ เป็นบารมี (ความดี) ที่ควรอบรมเจริญให้มีขึ้นในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าเป็นการขออยากได้ในเรื่องหนึ่งเรื่องใดนั้น เป็นอกุศลจิต ที่ประกอบด้วยโลภะ ความติดข้องต้องการ ไม่ใช่อธิษฐานในพระพุทธศาสนา 
     จากที่กล่าวมา อธิษฐาน จึงไม่ใช่การขอ ด้วยโลภะ ที่เป็นอกุศล แต่เป็นความตั้งใจมั่นในการกระทำกุศลประการต่าง ๆ อันเป็นไปเพื่อดับกิเลส
     เรื่อง อธิษฐานธรรม ๔ ประการ เป็น เรื่องละเอียดลึกซึ้ง ซึ่งอธิษฐานธรรม ๔ มีดังนี้ สัจจาธิษฐาน, จาคาธิษฐาน, อุปสมาธิษฐาน และ ปัญญาธิษฐาน อธิษฐานธรรม ๔ เป็นคุณธรรม ที่แสดงถึงความตั้งใจมั่นในกุศลธรรม โดยนัยต่าง ๆ
     ๑. สัจจาธิษฐาน คือ ความตั้งใจมั่นที่เป็นไปในการรักษาสัจจะ ความจริง ไม่ว่า จริงด้วยกาย วาจาและใจ ตรง จริง ด้วยกุศลธรรม ตั้งใจมั่นด้วยสัจจะ ความจริงว่ากระทำกุศลเพื่อดับกิเลส สัจจะ ตรงว่าศึกษาพระธรรมเพื่อ ละกิเลส ไม่ใช่เพื่อได้ มีความตั้งใจมั่นที่เป็นสัจจะ ความจริงเพื่อดับกิเลสเท่านั้นครับ เมื่อมีความตั้งใจ ด้วยสัจจะ ความจริงเช่นนี้ การศึกษาธรรม การประพฤติ ปฏิบัติต่าง ๆ ก็น้อมไปในทางที่ถูกต้องและละกิเลสนั่นเอง
     ๒. จาคาธิษฐาน คือการสละ สิ่งที่เป็นปฏิปักษ์ ข้าศึก ต่อ สัจจะ ความจริง ในเมื่อสัจจะความจริงก็คือ กุศลธรรมประการต่าง ๆ ที่ตรง  ดังนั้นการสละกิเลส ประการต่าง ๆ ตั้งใจมั่น ในการสละกิเลส ด้วยการทำกุศล เพราะขณะที่เป็นกุศล ขณะนั้นเป็นจาคะ สละจากกิเลสแล้วด้วยความตั้งใจมั่น ที่ประกอบด้วยปัญญาที่เห็นโทษของกิเลส จึงเจริญกุศลและอบรมปัญญา ขณะที่เข้าใจ ฟังพระธรรม ขณะนั้นเป็นจาคะ คือ การสละกิเลสเป็นจาคธิษฐานแล้วครับ ดังนั้นจาคะ จึงไม่ใช่เพียงการให้ สละวัตถุเท่านั้น แต่เป็นปัญญาที่สละกิเลสประการต่าง ๆ นั่นเอง
     ๓. อุปสมาธิษฐาน หมายถึง ความสงบจากสิ่งที่ไม่ใช่คุณของบารมี พูดให้เข้าใจ คือสงบจากกิเลส ที่จะเป็นปฏิปักษ์ ข้าศึกที่จะไม่ให้เจริญ บารมี ๑๐ คือคุณความดี ๑๐ ประการ แต่ธรรมที่ข้าศึกต่อ บารมี ๑๐ คือ กิเลสทุกๆประการที่เกิดขึ้นขณะที่เจริญกุศลอบรมปัญญา ขณะนั้น สงบแล้ว สงบจากกิเลส และเป็นบารมีประการต่าง ๆ ขณะที่สงบด้วยความเข้าใจถูกและเจริญกุศล เป็นกุศลในขณะนั้น ชื่อว่าเป็นอุปสมาธิษฐานในขณะนั้น เพราะสงบจากกิเลสที่เป็นข้าศึกของบารมี
     ๔. ปัญญาธิษฐาน คือ ปัญญาที่รู้ตามความเป็นจริงในสิ่งที่ควรทำไม่ควรทำ อันเป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของบารมี ขณะที่มีความเห็นถูก ขณะนั้นย่อมรู้ว่ากุศลควรเจริญอกุศลควรละ จึงละเว้นด้วยปัญญา เจริญในสิ่งที่ควรทำ คือ กุศลด้วยปัญญา ชื่อว่าเป็นปัญญาธิษฐานในขณะนั้น และขณะที่เข้าใจพระธรรม เห็นถูกตามความเป็นจริงในสภาพธรรมขณะนั้นก็เป็นปัญญา ที่เป็นปัญญาธิษฐาน ตั้งใจมั่น ด้วยปัญญาที่เห็นถูกในสภาพธรรม
      อธิษฐานธรรม ๔ ประการ สำคัญที่สุด คือขาดปัญญาไม่ได้เลย ดังนั้นก็ต้องเป็นความตั้งใจมั่นที่จะรักษาสัจจะ ด้วยมีปัญญา ความเข้าใจถูกเป็นพื้นฐาน.

You may also like

Leave a Comment

-
00:00
00:00
Update Required Flash plugin
-
00:00
00:00